แคนาดาเป็นประเทศที่มีความงามธรรมชาติอันน่าทึ่งและเป็นบ้านของเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ว่าคุณจะวางแผนที่จะเดินทางไปแคนาดาเพื่อท่องเที่ยว ศึกษา หรือทำงาน การทำความเข้าใจในประเภทวีซ่าที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะแนะนำคุณผ่านประเภทวีซ่าแคนาดาต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกประเภทที่ตรงกับความต้องการของคุณ
Table of Contents
ประเภทวีซ่าแคนาดา
1. วีซ่าท่องเที่ยว (Visitor Visa)
วีซ่าท่องเที่ยว หรือที่เรียกว่า Temporary Resident Visa (TRV) เป็นวีซ่าชั่วคราวที่อนุญาตให้ผู้ถือเข้าเยือนแคนาดาเป็นการชั่วคราว วีซ่าท่องเที่ยวเหมาะสำหรับการเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ หรือการดูงาน โดยระยะเวลาการพำนักสูงสุดส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 เดือน เมื่อครบกำหนดระยะเวลานี้ ผู้ถือวีซ่าจะต้องเดินทางออกจากประเทศแคนาดา หากต้องการพำนักต่ออาจจำเป็นต้องขอขยายเวลาการพำนักผ่านกระบวนการที่กำหนด
การขอวีซ่าท่องเที่ยวจำเป็นต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น:
- หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ
- หลักฐานแสดงสถานะการเงินที่เพียงพอในการใช้จ่ายระหว่างการพำนัก
- หลักฐานการจองที่พักและตั๋วเครื่องบินขากลับ
- จดหมายเชิญ (ถ้ามี) จากผู้เชิญในแคนาดา เช่น ญาติ หรือบริษัทที่คุณไปเยี่ยม
- ประกันสุขภาพและการเดินทาง
ผู้สมัครควรแน่ใจว่ามีแผนการเดินทางที่ชัดเจนและสามารถแสดงให้เห็นว่ามีเจตนาที่จะเดินทางกลับประเทศต้นทางหลังจากการเยือนเสร็จสิ้น นอกจากนี้ยังควรเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์หรือการยื่นเอกสารเพิ่มเติมหากถูกเรียกตรวจสอบเพิ่มเติม
2. วีซ่านักเรียน (Study Permit)
วีซ่านักเรียนจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโปรแกรมการศึกษาที่มีระยะเวลามากกว่า 6 เดือนในแคนาดา วีซ่านี้อนุญาตให้ผู้ถือพำนักในแคนาดาได้ตามระยะเวลาของโปรแกรมการศึกษา โดยต้องลงทะเบียนเรียนในสถาบันที่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลแคนาดา (Designated Learning Institutions – DLI)
สิ่งที่ผู้สมัครต้องเตรียมสำหรับการขอวีซ่านักเรียน:
- หนังสือรับรองการรับเข้าศึกษาจากสถาบันการศึกษาในแคนาดา
- หลักฐานทางการเงินที่แสดงว่าสามารถชำระค่าเล่าเรียน ค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้
- จดหมายอธิบายความตั้งใจในการศึกษาที่แคนาดาและแผนการกลับประเทศหลังจากเรียนจบ
- ประกันสุขภาพ (ในบางกรณี)
ในบางกรณี ผู้ถือวีซ่านักเรียนยังสามารถขออนุญาตทำงานพาร์ทไทม์ขณะศึกษาในแคนาดาได้ โดยจะต้องทำงานไม่เกิน 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเวลาที่เรียน และสามารถทำงานเต็มเวลาได้ในช่วงปิดเทอม การมีวีซ่านักเรียนยังเปิดโอกาสในการต่อยอดสู่วีซ่าถาวรในอนาคตผ่านโปรแกรมต่าง ๆ ของแคนาดา เช่น Canadian Experience Class (CEC) หากผู้เรียนมีประสบการณ์การทำงานหลังจบการศึกษา
3. วีซ่าทำงาน (Work Permit)
วีซ่าทำงานอนุญาตให้ผู้ถือเข้ามาทำงานในแคนาดาภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยประเภทของวีซ่าทำงานจะแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบตามลักษณะงานและข้อกำหนดของนายจ้าง ตัวอย่างของประเภทวีซ่าทำงานได้แก่:
- Open Work Permit: อนุญาตให้ผู้ถือสามารถทำงานกับนายจ้างใดก็ได้ในแคนาดา โดยไม่จำเป็นต้องมีข้อเสนอการจ้างงานล่วงหน้า
- Employer-specific Work Permit: อนุญาตให้ผู้ถือทำงานได้เฉพาะกับนายจ้างที่ได้ทำการจ้างล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งนายจ้างต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลการจ้างงานของแคนาดาก่อน
สำหรับการขอวีซ่าทำงาน ผู้สมัครจำเป็นต้องมี:
- ข้อเสนอการจ้างงานจากนายจ้างในแคนาดา (สำหรับ Employer-specific Work Permit)
- การตรวจสอบใบอนุญาตการจ้างงาน (Labour Market Impact Assessment – LMIA) ซึ่งแสดงว่านายจ้างไม่สามารถหาคนในแคนาดาที่มีคุณสมบัติสำหรับงานนั้นได้
- เอกสารยืนยันคุณสมบัติและประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ วีซ่าทำงานบางประเภทเปิดโอกาสให้ผู้ถือสามารถยื่นขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในแคนาดาได้หากมีประสบการณ์การทำงานที่ตรงตามเงื่อนไขของโปรแกรม Express Entry หรือโปรแกรมอื่น ๆ ของแคนาดา
4. วีซ่าคู่สมรส (Spousal Sponsorship)
วีซ่าคู่สมรสเป็นหนึ่งในโปรแกรมการสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานถาวรสำหรับคู่สมรสหรือคู่ชีวิต (common-law partner) ของพลเมืองแคนาดาหรือผู้ถือสถานะถาวร (Permanent Resident) ที่ต้องการย้ายมาอาศัยอยู่ในแคนาดา โปรแกรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คู่สมรสสามารถอยู่ร่วมกันในแคนาดาได้โดยถูกกฎหมาย
มี 2 ประเภทหลักของการยื่นขอวีซ่าคู่สมรส:
- Inland Sponsorship: สำหรับคู่สมรสที่อาศัยอยู่ในแคนาดาและต้องการขอสถานะผู้พำนักถาวร (Permanent Resident) ในขณะที่อยู่ในแคนาดา การยื่นคำขอแบบ Inland นี้สามารถขอ Open Work Permit ได้ ซึ่งจะทำให้คู่สมรสสามารถทำงานในแคนาดาระหว่างรอการอนุมัติวีซ่าได้
- Outland Sponsorship: สำหรับคู่สมรสที่อาศัยอยู่นอกแคนาดาในขณะที่ยื่นคำขอ วีซ่านี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความต้องการเดินทางไปกลับระหว่างประเทศบ้านเกิดและแคนาดาในระหว่างที่คำขอกำลังถูกพิจารณา
การยื่นคำขอวีซ่าคู่สมรสต้องมีการเตรียมเอกสารหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริง เช่น:
- ทะเบียนสมรสหรือหลักฐานการใช้ชีวิตคู่
- หลักฐานการสื่อสารระหว่างคู่สมรส (เช่น ข้อความหรืออีเมล)
- ภาพถ่ายคู่สมรสในโอกาสต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน หรือการใช้ชีวิตร่วมกัน
นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นสปอนเซอร์ (พลเมืองแคนาดาหรือผู้ถือสถานะถาวร) ต้องแสดงหลักฐานทางการเงินว่ามีความสามารถในการสนับสนุนคู่สมรสและดูแลค่าใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด การพิจารณาและการอนุมัติคำขอวีซ่าคู่สมรสมักใช้เวลาอยู่ระหว่าง 12-18 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดของผู้สมัครและการตรวจสอบจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองแคนาดา
5. Express Entry
Express Entry เป็นระบบการจัดการวีซ่าผู้อพยพที่มีทักษะ (Skilled Worker) ของแคนาดา ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้การขอถิ่นฐานถาวรในแคนาดาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Express Entry ทำงานผ่านระบบการประเมินคะแนนตามเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น อายุ การศึกษา ประสบการณ์การทำงาน และความสามารถทางภาษา โดยผู้สมัครจะถูกประเมินและจัดอันดับผ่านระบบ Comprehensive Ranking System (CRS)
Express Entry แบ่งออกเป็น 3 โปรแกรมหลัก:
- Federal Skilled Worker Program (FSWP): สำหรับผู้ที่มีทักษะและประสบการณ์การทำงานในสายอาชีพที่ต้องการของแคนาดา ผู้สมัครต้องมีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 1 ปีในอาชีพที่มีความต้องการและมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศส
- Federal Skilled Trades Program (FSTP): สำหรับผู้ที่มีทักษะในสาขาช่างฝีมือ เช่น การก่อสร้างหรืออุตสาหกรรม การสมัครในโปรแกรมนี้จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 2 ปีในสายงานช่างฝีมือและมีข้อเสนอการจ้างงานจากนายจ้างในแคนาดาหรือมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
- Canadian Experience Class (CEC): สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานในแคนาดาอย่างน้อย 1 ปีในสายงานที่มีความต้องการ โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับนักเรียนต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาในแคนาดาและทำงานต่อในประเทศ รวมถึงผู้ถือวีซ่าทำงานที่มีประสบการณ์ทำงานในแคนาดาแล้ว
กระบวนการ Express Entry ประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลัก:
- การยื่นโปรไฟล์ในระบบ Express Entry: ผู้สมัครจะต้องสร้างโปรไฟล์ออนไลน์ในระบบ Express Entry โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และความสามารถทางภาษา
- การรับเชิญ (Invitation to Apply – ITA): เมื่อโปรไฟล์ถูกประเมินและจัดอันดับ ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุดในกลุ่มจะได้รับเชิญให้ยื่นขอถิ่นฐานถาวร โดยกระบวนการขอวีซ่านี้มักใช้เวลาประมาณ 6 เดือนหลังจากได้รับ ITA
ระบบ Express Entry เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปแคนาดาอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นวิธีการที่แคนาดาใช้ในการคัดเลือกผู้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศ
การเตรียมเอกสาร
การเตรียมเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการขอวีซ่า นอกเหนือจากหนังสือเดินทางและแบบฟอร์มการสมัครแล้ว คุณอาจต้องมีเอกสารเพิ่มเติม เช่น หลักฐานการจ้างงาน หลักฐานการเงิน และหนังสือเชิญจากผู้ที่อยู่ในแคนาดา
คำแนะนำสำหรับการขอวีซ่า
- เริ่มต้นการขอวีซ่าล่วงหน้า: เวลาในการประมวลผลวีซ่าอาจแตกต่างกันไป การเริ่มต้นขั้นตอนการขอวีซ่าล่วงหน้าจะช่วยลดความเครียดและให้เวลาเพียงพอสำหรับการเตรียมเอกสาร
- ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง: ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนสามารถทำให้คำขอวีซ่าของคุณถูกปฏิเสธ ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้องก่อนยื่นคำขอ
- เตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์: บางประเภทวีซ่าอาจต้องการการสัมภาษณ์ การเตรียมตัวล่วงหน้าและการฝึกซ้อมคำตอบสามารถช่วยให้คุณมั่นใจและพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์
การทำความเข้าใจในประเภทวีซ่าแคนาดาและการเตรียมตัวอย่างถี่ถ้วนสามารถเป็นประโยชน์อย่างมากในกระบวนการขอวีซ่า ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปแคนาดาเพื่อเหตุผลใดก็ตาม การมีความรู้และการเตรียมพร้อมสามารถช่วยให้คุณผ่านขั้นตอนนี้ได้อย่างราบรื่นและสำเร็จลุล่วง
สามารถอ่านบทความเพิ่มเกี่ยวกับวีซ่าแคนาดาได้ที่นี้